เปรียบเทียบระหว่าง กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง/กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กองทุนประกันสังคม แตกต่างกันอย่างไร

	กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง	กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ	กองทุนประกันสังคม
วัตถุประสงค์	เพื่อเป็นกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างในกรณีเลิกจ้าง/เกษียณ/ลาออก/สิ้นสุดสัญญาจ้าง/ตาย	เพื่อเป็นหลักประกันการออมรองรับการเกษียณแก่ลูกจ้างในกรณีลูกจ้างตาย ออกจากงานหรือลาออกจากกองทุน	เพื่อเป็นหลักประกันให้ผูประกันตนดั้บประโยชน์ทดแทนเมื่อต้องประสบอันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพหรือตายซึ่งไม่เนื่องจากการทำงานรวมถึงคลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพและว่างงาน
ระบบ	บังคับ	สมัครใจ	บังคับ
สถานประกอบการที่อยู่ในข่าย	สถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปยกเว้น มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและลูกจ้างเข้าเป็นสมาชิก หรือให้มีสวัสดิการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างตามกฏกระทรวง	สถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 1 คนขึ้นไป	สถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 1 คนขึ้นไป
แหล่งที่มาของเงิน	1.เงินสะสมของนายจ้าง 2.เงินสมทบของลูกจ้าง	1.เงินสะสมของนายจ้าง 2.เงินสมทบของลูกจ้าง	1.เงินสะสมของนายจ้าง 2.เงินสมทบของลูกจ้าง 3.เงินสมทบของรัฐบาล
อัตรานำส่งเงิน	ฝ่ายละไม่เกิน 0.5% ของค่าจ้าง (ตามพรบ.คุ้มครองแรงงาน2541) ปัจจุบันเก็บฝ่ายละไม่เกิน 0.25% ของค่าจ้าง (1/8/68-30/09/73) และตั้งแต่ 01/10/73 เป็นต้นไปนั้นจะเก็บฝ่ายละไม่เกิน 0.5% ของค่าจ้าง	ตามข้อบังคับกองทุนอัตราไม่ต่ำกว่า 2% แต่ไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง	นายจ้าง 5%ของค่าจ้าง ลูกจ้าง 5% ของค่าจ้าง รัฐบาล 2.75% ของค่าจ้าง
ฐานการคำณวนเงินที่ต้องนำส่ง	ค่าจ้างของลูกจ้าง(ตามนิยามของกฎหมายแรงงาน)	ค่าจ้างของลูกจ้าง	ค่าจ้างของลูกจ้าง *ค่าจ้างชั้นต่ำ1,650บาท *ค่าจ้างขั้นสูง 15,000บาท
สิทธิประโยชน์	*ลาออกจากงาน *เลิกจ้าง *เกษียณ *สิ้นสุดสัญญาจ้าง *ตาย	*ลาออกจากงาน *ลาออกจากกองทุน *ตาย	*ประสบอันตราย/เจ็บป่วย *ทุพพลภาพ *ตาย *คลอดบุตร *สงเคราะห์บุตร *ชราภาพ *ว่างงาน
เงื่อนไขการได้รับเงินจากกองทุน	ไม่มีเงื่อนไข	มีเงื่อนไขตามกองทุนกำหนด เช่นอายุงาน อายุการเป็นสมาชิกกองทุน	มีเงื่อนไขตามที่กฏหมายกำหนด เช่นระยะเวลาจ่ายเงินสมทบของลูกจ้าง
บริหารโดย	คณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างไตรภาคีจากรัฐบาล โดยกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงานกระทรวงแรงงาน	คณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นทวิภาคี คัดเลือกบริษัทจัดการภายใต้การกำกับดูแลโดยสำนักงาน ก.ล.ต.	คณะกรรมการประกันสังคม ไตรภาคีจากรัฐบาล โดยสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
การนำส่งเงิน	ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินไว้ (ชำระล่าช้ามีค่าปรับ 5% ต่อเดือน)	ภายใน 3 วันนับจากวันที่มีการจ่ายค่าจ้าง (ชำระล่าช้ามีค่าปรับ 5% ต่อเดือน)	ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินไว้ (ชำระล่าช้ามีค่าปรับ 2% ต่อเดือน)
ผลของการไม่นำส่งเงินเข้ากองทุนฯของนายจ้าง	มีความผิด *พนักงานตรวจแรงงานมีหนังสือเตือน *หากไม่ปฎิบัติตามหนังสือเตือน พนักงานตรวจแรงงานมีอำนาจออกคำบังคับ อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินเพื่อนำเงินส่งเข้ากองทุน	ไม่มีความผิด	มีความผิด *พนักงานเจ้าหน้าที่มีหนังสือเตือน *หากไม่ปฎิบัติตามหนังสือเตือน พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่ง ยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินนำเงินสางเข้ากองทุน