ถ้าคนต่างชาติถือหุ้นเกิน 49% จะต้องพิจารณากฎหมาย พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (Foreign Business Act – FBA) ว่าธุรกิจนั้นต้องขอใบอนุญาต (Foreign Business License: FBL) หรือไม่
ถ้าคนต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 49% และมีผู้ถือหุ้นไทย มากกว่าหรือเท่ากับ 51% สามารถจดบริษัทจำกัดทั่วไปได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ดำเนินการที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)
ใช้ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 2 ล้านบาท (ถ้ามีต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้นและจะขอ Work Permit 1 คน)
ถ้าจะขอ Work Permit หลายคน จะต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนตามสัดส่วน
บริษัทต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2 ล้านบาทต่อคนต่างชาติ 1 คน
ต้องมีพนักงานไทยอย่างน้อย 4 คน ต่อชาวต่างชาติ 1 คน (ยกเว้น BOI หรือ Smart Visa ที่อาจยกเว้นได้)
บริษัทต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ถ้ามีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) : จดทะเบียนบริษัท
กรมการจัดหางาน (Department of Employment) : ขอใบอนุญาตทำงาน (work Permit)
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (immigration Bureau) : ขอวีซ่าและต่ออายุ
สำนักงานส่งเสริมการลงทุน BOI : สิทธิประโยชน์และข้อยกเว้นเงื่อนไขบางอย่าง
กรมสรรพากร (Revenue Department) : ภาษีเงินได้ , VAT
1. Visa ประเภท Non-Immigrant "B" (Business Visa)
ยื่นขอที่สถานทูตไทยในต่างประเทศ หรือขอเปลี่ยนประเภทวีซ่าในไทย (ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง – Immigration Bureau)
2. ขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
ยื่นที่ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน
ใช้เอกสาร เช่น หนังสือรับรองบริษัท, ทะเบียนพาณิชย์, ทะเบียนผู้ถือหุ้น, งบการเงิน, รูปถ่าย ฯลฯ
3. ต่ออายุวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน
ต้องต่ออายุตามรอบ 1 ปี
รายงานตัวที่ตรวจคนเข้าเมืองทุก 90 วัน
1. ธุรกิจที่ชาวต่างชาติทำได้เลย (ไม่ติดข้อห้ามตาม พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542)
ธุรกิจส่งออกสินค้า (Export)
ธุรกิจการผลิตเพื่อการส่งออก (ไม่จำหน่ายในประเทศ)
ธุรกิจบางประเภทที่ใช้เทคโนโลยีหรือวิศวกรรมที่ไทยยังขาด
ธุรกิจบริการที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีห้าม (เช่น ที่ปรึกษาเฉพาะด้าน)
ธุรกิจที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI (Board of Investment) เช่น
เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT, Software, AI)
พลังงานทดแทน, สิ่งแวดล้อม
วิจัยและพัฒนา, เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotech)
โลจิสติกส์ระดับสากล
การแพทย์และสุขภาพ
ถ้าถือหุ้นเกิน 49% ต้องขอ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (Foreign Business License – FBL) จากกระทรวงพาณิชย์
ตัวอย่างเช่น:
ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (พัฒนาโครงการ, บริหารทรัพย์สิน)
ธุรกิจบริการทั่วไป เช่น ที่ปรึกษา บริหารงาน
ธุรกิจท่องเที่ยว (ถ้าเป็นผู้จัดการ ไม่ใช่มัคคุเทศก์)
(ตาม บัญชีแนบท้ายประกาศกระทรวงแรงงาน และ FBA)
งานค้าปลีกเล็ก ๆ, ขายของตามตลาดนัด
งานมัคคุเทศก์, นำเที่ยว
งานบริการด้านเสริมสวย, ตัดผม, ทำเล็บ
งานหัตถกรรมพื้นบ้าน, งานฝีมือแบบไทยดั้งเดิม
งานเกษตรกรรมขั้นพื้นฐาน เช่น ทำนา ทำไร่ ทำสวน
ประเภทธุรกิจ | ระดับการจำกัด | ตัวอย่างธุรกิจ | เงื่อนไข/ข้อยกเว้น |
---|---|---|---|
List 1 – ห้ามโดยเด็ดขาด | ❌ ห้ามทำ 100% | สื่อสิ่งพิมพ์, วิทยุ-โทรทัศน์, เกษตรกรรม, ข้าว, ป่าไม้, สมุนไพรไทย, งานศิลปะโบราณ, การซื้อขายที่ดิน | ไม่มีข้อยกเว้น |
List 2 – จำกัด ต้อง ครม. อนุมัติ | ⚠️ ทำได้ แต่ต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี + หุ้นไทย ≥ 40% | การขนส่งภายในประเทศ (ทางบก/น้ำ/อากาศ), การทำเหมือง, การผลิตอาวุธ, การค้าโบราณวัตถุ | ต้องยื่นเรื่องผ่าน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และ ครม. อนุมัติ |
List 3 – จำกัด ต้อง FBL (Foreign Business License) | ⚠️ ทำได้ แต่ต้องมีใบอนุญาต FBL จาก DBD | ก่อสร้างทั่วไป, ขายปลีก/ขายส่ง, ร้านอาหาร, โรงแรม, บริการทางกฎหมาย/บัญชี/โฆษณา | พิจารณาตามผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย เช่น การจ้างงาน, การถ่ายทอดเทคโนโลยี |
BOI Promotion | ✅ ยกเว้นข้อจำกัดหลายอย่าง | โลจิสติกส์, คลังสินค้า, เทคโนโลยี, อุตสาหกรรมเป้าหมาย | ชาวต่างชาติถือหุ้นได้ 100%, สิทธิประโยชน์ทางภาษี, ไม่ต้องขอ FBL บางกรณี |
Treaty (สนธิสัญญา) | ✅ ยกเว้นข้อจำกัดตามข้อตกลง | US–Thai Treaty of Amity, JTEPA (ไทย–ญี่ปุ่น), ACIA (อาเซียน) | ได้สิทธิใกล้เคียงคนไทย ต้องยืนยันกับ DBD |
Ministerial Regulation (ข้อยกเว้นตามกฎกระทรวง) | ✅ ไม่ต้องขอ FBL | Representative Office, Regional Office, ที่ปรึกษาภายในกลุ่มบริษัท, ให้กู้หรือเช่าออฟฟิศในเครือ | ต้องรายงานต่อ DBD แต่ไม่ต้องมี FBL |