ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต้องเสียภาษีเท่าไร ?

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต้องเสียภาษีเท่าไร ?

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คือ ภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งถูกนำมาใช้แทนภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่แบบเดิม โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2562 และเริ่มจัดเก็บตั้งแต่ 1 มกราคม 2563

ประเภทของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ตามลักษณะการใช้ประโยชน์ ได้แก่ ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย ที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรม และที่ดินรกร้างว่างเปล่า โดยแต่ละประเภทมีอัตราภาษีและเงื่อนไขการจัดเก็บที่แตกต่างกัน

1. ภาษีที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม

ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกิจการอื่นตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด แบ่งเป็น 2 ประเภทย่อย คือ

1.1 บุคคลธรรมดา เป็นเจ้าของที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้ว จะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้ มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่ต้องเสีย

อัตราภาษีตามมูลค่าทรัพย์สินที่ใช้เพื่อการเกษตร

มูลค่าทรัพย์สิน (บาท) อัตราภาษี คิดเป็นล้านละ (บาท)
0 – 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี -
50 – 125 ล้านบาท 0.01% 100
125 – 150 ล้านบาท 0.03% 300
150 – 550 ล้านบาท 0.05% 500
550 – 1,050 ล้านบาท 0.07% 700
1,050 ล้านบาทขึ้นไป 0.10% 1,000

*หมายเหตุ : สำหรับบุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของจะได้รับการยกเว้นภาษีกรณีที่ดินมีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ในขณะที่นิติบุคคลจะไม่ได้รับการยกเว้น

1.2 นิติบุคคลเป็นเจ้าของซึ่งจะต้องขึ้นทะเบียนเป็นนิติบุคคล

อัตราภาษีตามมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

มูลค่าทรัพย์สิน (บาท) อัตราภาษี คิดเป็นล้านละ (บาท)
0 – 75 ล้านบาท 0.01% 100
75 – 100 ล้านบาท 0.03% 300
100 – 500 ล้านบาท 0.05% 500
500 – 1,000 ล้านบาท 0.07% 700
1,000 ล้านบาทขึ้นไป 0.10% 1,000

2. ภาษีที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย

คือภาษีที่จัดเก็บจากที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยหลัก โดยเจ้าของมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนี่ยม ห้องชุด จะได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับมูลค่า 50 ล้านบาทแรก ส่วนที่เกินจะเสียภาษีในอัตราที่กำหนด ทั้งนี้ กรณีบ้านหลังที่สองขึ้นไปจะต้องเสียภาษีตามอัตราปกติ โดยมีการแบ่งประเภทตามมาตราดังนี้

2.1 บุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหลังเดียว (มาตรา 3(2)(ก))

มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่ต้องเสีย

มูลค่าทรัพย์สิน (บาท) อัตราภาษี คิดเป็นล้านละ (บาท)
0 – 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี -
50 – 75 ล้านบาท 0.03% 300
75 – 100 ล้านบาท 0.05% 500
100 ล้านบาทขึ้นไป 0.10% 1,000

2.2 บุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้างหลังเดียวไม่มีที่ดิน (มาตรา 3(2)(ข))

มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่ต้องเสีย

มูลค่าทรัพย์สิน (บาท) อัตราภาษี คิดเป็นล้านละ (บาท)
0 – 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี -
50 – 75 ล้านบาท 0.03% 300
75 – 100 ล้านบาท 0.05% 500
100 ล้านบาทขึ้นไป 0.10% 1,000

2.3 บุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2 หลังขึ้นไป (มาตรา 3(2)(ค))

มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่ต้องเสีย

มูลค่าทรัพย์สิน (บาท) อัตราภาษี คิดเป็นล้านละ (บาท)
0 – 10 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี -
10 – 50 ล้านบาท 0.02% 200
50 – 75 ล้านบาท 0.03% 300
75 – 100 ล้านบาท 0.05% 500
100 ล้านบาทขึ้นไป 0.10% 1,000

3. ภาษีที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรม

ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เพื่อการพาณิชย์ อุตสาหกรรม หรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ เช่น โรงแรม ร้านค้า อาคารสำนักงาน โรงงาน จะต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่าการใช้ประโยชน์ประเภทอื่น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างคุ้มค่า

มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่ต้องเสีย

มูลค่าทรัพย์สิน (บาท) อัตราภาษี คิดเป็นล้านละ (บาท)
0 – 50 ล้านบาท 0.3% 3,000
50 – 200 ล้านบาท 0.4% 4,000
200 – 1,000 ล้านบาท 0.5% 5,000
1,000 – 5,000 ล้านบาท 0.6% 6,000
5,000 ล้านบาทขึ้นไป 0.7% 7,000

4. ภาษีที่ดินหริอสิ่งปลูกสร้างที่รกร้างว่างเปล่า

ที่ดินที่ไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ หรือที่ทิ้งไว้รกร้างว่างเปล่า จะต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงที่สุด เพื่อกระตุ้นให้เจ้าของที่ดินนำที่ดินไปใช้ประโยชน์

สิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้ทำประโยชน์สมควรแก่สภาพ ทิ้งให้รกร้างว่างเปล่ามิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต้องเสียภาษีที่ดินเช่นกัน

มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่ต้องเสีย

มูลค่าทรัพย์สิน (บาท) อัตราภาษี คิดเป็นล้านละ (บาท)
0 – 50 ล้านบาท 0.3% 3,000
50 – 200 ล้านบาท 0.4% 4,000
200 – 1,000 ล้านบาท 0.5% 5,000
1,000 – 5,000 ล้านบาท 0.6% 6,000
5,000 ล้านบาทขึ้นไป 0.7% 7,000

*เงื่อนไขสำคัญที่ต้องรู้ : หากปล่อยที่ดินรกร้างว่างเปล่าเกิน 3 ปีติดต่อกัน อัตราภาษีจะเพิ่มขึ้น 0.3% ทุก 3 ปี แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 3%

อย่างไรก็ตาม ที่ดินที่อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อทำประโยชน์ หรืออยู่ระหว่างการก่อสร้างที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง รวมถึงที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างที่ถูกลิดรอนสิทธิในการทำประโยชน์ตามกฎหมาย หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล จะได้รับการยกเว้นไม่ถือเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า

ใครมีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

การพิจารณาผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะดูจากความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตามที่ระบุในโฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ์ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

เจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชน

ผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นทรัพย์สินของรัฐ เช่น ผู้เช่าที่ราชพัสดุ หรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเริ่มเสียเมื่อไหร่

ผู้ถือครองที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ณ วันที่ 1 มกราคมของปีใด มีหน้าที่เสียภาษีสำหรับปีนั้น โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะส่งแบบประเมินภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีภายในเดือนกุมภาพันธ์ และผู้เสียภาษีต้องชำระภายในเดือนเมษายนของทุกปี หากพ้นกำหนดจะต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน

วิธีคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

การคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีสูตรการคำนวณ 3 แบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะของทรัพย์สินที่ถือครอง ได้แก่ ที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด จะใช้วิธีการคำนวณแบบขั้นบันไดตามมูลค่าของฐานภาษีในแต่ละขั้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. วิธีคำนวณภาษีที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง

สูตร : การคำนวณภาษีที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง คือ มูลค่าที่ดิน x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย

2. วิธีคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

สูตร: การคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คือ (มูลค่าที่ดิน + มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย

3. วิธีคำนวณภาษีสำหรับห้องชุด

สูตร: การคำนวณภาษีที่ดินสำหรับห้องชุด คือ มูลค่าห้องชุด x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย

สถานที่ชำระภาษี

เทศบาล ชำระที่สำนักงานเทศบาล
อบต. ชำระที่สำนักงานองค์การบรอหารส่วนตำบล
กทม.ชำระที่สำนักงานเขต
เมืองพัทยา ชำระที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา